มาใหม่อีกแล้ว Bio-Remodelling ยาฉีดหน้าตัวใหม่ปี 2025 ชื่อ “PROFHILO”
PROFHILO ไม่ใช่ Filler ไม่ใช่ Biostimulator แต่เขาคือ Super HA ผมขอเรียกเขาว่า Super HA = Super Hyaluronic Acid แล้วกันนะครับ เพราะตัวนี้เขามี HA ที่เข้มข้นสูงมาก สูงถึง 64 mg ซึ่งใน Filler หรือ Hybrid Biostimulator ใส่มาได้แค่ 12-30 mg โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตพิเศษแบบล้ำ ๆ ที่ชื่อว่า NAHYCO technology โดยใช้ความเย็นและความร้อนหลอมรวมโมเลกุลของ HA ที่เป็น High และ Low Molecular Weight เข้าด้วยกัน เรียกว่าเป็น Hybrid Cooperative Complex (HCC)
ซึ่งแตกต่างจากการทำให้ HA กลายเป็น Filler โดยการใส่สารที่เชื่อมพันธะกัน ที่ชื่อ BDDE หรือ PEG จึงเกิด gxHo HA Filler ที่เป็นเนื้อเจลมีความสามารถในการตั้งทรงได้ และความพิเศษของเทคโนโลยีนี้สามารถทำให้เกิด HA ที่มีความเข้มข้นสูงมากที่เทคโนโลยีอื่นไม่เคยทำได้มาก่อน จึงทำให้ HA ใน PROFHILO สลายตัวได้ยากขึ้น และออกฤทธิ์ได้ยาวนานขึ้น
นอกจากคุณสมบัติทั้ง 2 ข้อนี้ HA ใน PROFHILO ยังมีคุณสมบัติเด่นมาก ๆ คือความสามารถการกระจายตัวที่ดี ทำให้ปิด Pain Point ของคนกลัวเข็ม กลัวเจ็บได้ทันที เพราะสามารถฉีดทั่วหน้าเพียง 5 จุด ตัวยาจะกระจายได้ 360 องศา ทั้งด้านบน ด้านล่าง ด้านข้าง จึงออกฤทธิ์กระตุ้นได้ทุกชั้นผิว กระตุ้นตั้งแต่ชั้นผิวหนังกำพร้า ผิวหนังแท้ ชั้นไขมัน ชั้นกล้ามเนื้อ และกระตุ้นได้ไกลไปถึงชั้นกระดูกเลยทีเดียว ซึ่งไม่มีตัวยาใดเคยพูดถึงคุณสมบัตินี้มาก่อน
กลไกการกระตุ้น Bio-remodelling เป็นการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนโดยปรับสมดุลให้ผิวมีสภาวะแวดล้อมที่ทำให้เซลล์ต่างๆ อยู่แล้วมีความสุข อยู่แล้วสมดุล เกิดระบบนิเวศ (ecosystem) แต่ละเซลล์จึงมีสุขภาพดี คอลลาเจนเก่าไม่เสื่อมหาย คอลลาเจนใหม่ผลิตได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้ผิวทุกระดับชั้นดีขึ้น
- Keratinocytes (Epidermis) ผิวหนังกำพร้า
- Fibroblasts (Dermis) ชั้นผิวหนังแท้
- Adipocytes (Subcutaneous/Superficial fat) ชั้นไขมันใต้ผิวหนังและชั้นไขมันตื้น
- Myocytes (Muscles) ชั้นกล้ามเนื้อ
- Osteoblasts (bones) ชั้นกระดูก
เพราะคนเราเวลาแก่ แก่ทุกชั้น จะดูแลหน้าให้ดูเด็กและอ่อนเยาว์ไม่ใช่ดูแลผิวๆ แค่ที่มองเห็นเพียงภายนอกอย่างเดียวจะได้ผิวสวยๆ
PROFHILO 1 syringe มี 2 cc เมื่อฉีดเข้าผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) ข้างละ 5 จุด จนเป็นตุ่มนูน ใช้ตัวยาจุดละ 0.2 cc หลังจากฉีดประมาณ 10 นาที ตุ่มนูนหายไป ไม่เหมือน filler งานผิว ที่ฉีดตื้นแล้วอาจเกิดตุ่มนูนได้หลายวันหรือเป็นสัปดาห์ ทำให้เกิดความกังวลได้ จึงเป็นข้อดีของ PROFHILO ผลลัพธ์หลังการฉีดจะเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนหลายชนิดและอีลาสติน
- Collagen type 1 = ผิวแน่นเฟิร์มกระชับ
- Collagen type 3 = ผิวยืดหยุ่น
- Collagen type 4 = ผิวชุ่มชื้นขึ้น
- Collagen type 7 = ลดความหยาบกร้านให้ผิวเพิ่ม Elastin ให้ผิว เพิ่มความยืดหยุ่นเด้งดึ๋ง
และเมื่อฉีด PROFHILO ในเคสหลุมสิว ปรากฏว่าทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น มีผลกับหลุมสิวทุกชนิด แต่ผลลัพธ์แตกต่างกัน ใครที่ต้องการรักษาหลุมสิวต้องลองสิ่งนี้เลย แต่ไม่ควรทำพร้อมกับเลเซอร์ เพราะความร้อนอาจทำลาย HA ได้ จึงเหมาะกับคนที่ไม่อยากเลเซอร์ หรือคนที่เลเซอร์หลุมสิวมาจนครบคอร์สแล้ว อยากได้ผลลัพธ์จากการกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อเก็บรายละเอียดให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
พูดถึงการกระตุ้นคอลลาเจน ข้อจำกัดอย่างหนึ่งจากสารกลุ่ม Collagen biostimulator คือ ไม่แนะนำให้ฉีดในคนไข้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิ (autoimmune disease) และคนที่มีการอักเสบในร่างกาย แต่ PROFHILO ไม่มีข้อจำกัด สามารถฉีดในคนที่เป็นโรคกลุ่มภูมิคุ้มกันได้ เนื่องจากเป็น HA ที่เข้ากันได้กับเนื้อเยื่อมนุษย์ จึงมีความปลอดภัยสูง สามารถฉีดได้ทุกคน โดยไม่มีข้อจำกัด
สุดท้าย ปัญหาสำคัญของการฉีด Filler และ biostimulator สามารถทำให้เกิด Overfill syndrome หรือภาวะหน้าล้นได้ คือเมื่อ filler ดูดน้ำเข้าไปในเนื้อ filler จะเกิด volume ที่เพิ่มขึ้น และหลังฉีด Biostimulator จะมีการสร้างคอลลาเจนใหม่เยอะขึ้นมาก จะมากเท่าใดผลลัพธ์ขึ้นกับแต่ละบุคคล หากแต่การฉีดหลายครั้ง ยิ่งทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและไขมันดีใต้ผิวมากขึ้นด้วย จึงนำมาซึ่งภาวะ Overfill syndrome แต่ PROFHILO ไม่ทำให้เกิดภาวะหน้าล้น เนื่องจากเป็นส่วนประกอบของ non-crosslinked HA ไม่สามารถตั้งทรงได้ และไม่เกิดการสร้าง volume ใหม่
หากใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับ WOW Clinic ได้เลยค่ะ