คลินิกรักษาฝ้า รักษาหลุมสิว เลเซอร์ปากชมพู กับประสบการณ์การรักษากว่า 10 ปี

Beauty is success

092-259-9517, 02-167-7288

11:00 – 20:00 น.
11:00 AM – 08:00 PM

ปากดำ ทำไงดี T T

WOW CLINIC

ปัญหาปากดำอาจทำให้คุณถูกเพื่อนล้อตอนเด็กเป็นแน่ ยิ่งกว่านั้นอาจเป็นปมด้อย โตมาก็ยังแก้ไม่หายแถมคล้ำหนักกว่าเดิม ปัญหาปากดำอาจเกิดจากสีผิวกายที่คล้ำเป็นจากกรรมพันธุ์ หรือคล้ำเฉพาะปากแม้ผิวกายจะไม่คล้ำมากก็ตาม บางคนเพิ่งมาริมฝีปากคล้ำตอนโตก็มีมากมาย เกิดคำถามมากมาย!?!$&^ ทำไมต้องเป็นเรา ทั้งๆที่พ่อแม่ก็ไม่คล้ำ ไม่ได้สูบบุหรี่ ไม่กินเผ็ด คิดไปก็ปวดหัว เพราะมันเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่วันนี้เรามีวิธีเด็ดๆช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้ดูจิ้ปๆไปเลย

ก่อนอื่นต้องทราบสาเหตุของการเกิดก่อน

กรรมพันธุ์ : อันนี้แน่นอนหละ ใครผิวคล้ำก็ต้องริมฝีปากคล้ำเป็นธรรมดา ซึ่งปากคนเรามีหลายเฉดสี เหมือนกับลิปสติก ส่วนใหญ่คนขาวๆก็จะปากสีชมพู หรือสีชมพูเข้ม ใครผิวเหลืองผิวคล้ำก็จะปากชมพูน้องลงหน่อยจนไปถึงคล้ำและคล้ำมากก็มี ลักษณะนี้แตกต่างกันแต่ละบุคคลซึ่งถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย

อายุ : เมื่ออายุมากขึ้นปากเราได้ผ่านการใช้งานมามาก ทั้งโดนแดด อาหารเผ็ดร้อน ยาสีฟัน ลิปสติก สิ่งระคายเคืองพวกนี้ทำให้สีปากคล้ำลง เช่นเดียวกับผิวกายยิ่งโดนเสียดสีมากก็ยิ่งคล้ำลง >.<

พฤติกรรมเสี่ยง : การสูบบุหรี่และการเลียริมฝีปากบ่อยๆก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน

แสงแดด : แสงแดดคือสาเหตุแห่งความเสื่อม เมื่อปากคุณโดนแดดบ่อยๆย่อมคล้ำกว่าปกติ ยิ่งถ้าริมฝีปากมีอาการแพ้ทั้งแพ้ลิปสติกแพ้อาหาร เมื่อเจอแสงแดดจะทำให้ริมฝีปากคล้ำยิ่งขึ้น

แพ้ลิปสติก : สาเหตุสำคัญที่พบบ่อย ยิ่งถ้าใช้ลิปสติกที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่อย่าว่าไปคนจะแพ้ก้ต้องแพ้แม้ใช้ของแพงหรือของไม่แพง แต่ส่วนมากจะแพ้น้ำหอม สี หรือสารกันเสียที่เจือปนมา

อุณหภูมิ : ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งถ้าอากาศเย็นจะทำให้ริมฝีปากคล้ำกว่าปกติได้เนื่องจากมีเลือดมาคั่งและเส้นเลือดหดตัว แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราว จึงไม่ต้องกังวลมากนัก

โรคประจำตัว : ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โรคเลือดจาง นานวันเข้าริมฝีปากมีเลือดมาเลี้ยงไม่เพียงพอ ทำให้เซลล์ผิวไม่สมบูรณ์ และโรคเลือดข้นก็จะเห็นริมฝีปากคล้ำกว่าปกติได้

ยาบางชนิด : ยาบางชนิดที่เป็นสาเหตุของการแพ้ยาก็เป็นสาเหตุทำให้ริมฝีปากอักเสบและคล้ำลง ที่พบบ่อยเช่น ยาปฏิชีวนะ ยาเชื้อรา ยาวัณโรค

ผักผลไม้บางชนิด : เช่น ขิง ขึ้นฉ่าย ผักชี หอม กระเทียม และผลไม้รสเปรี้ยวจำพวกส้ม สับปะรด มะม่วง มะขาม ฯลฯ เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีสารที่ชื่อว่า โซราเลน (soralen) ที่อาจตกค้างตามริมฝีปากหลังรับประทาน ถ้าสารเหล่านี้สัมผัสกับสารอัลตราไวโอเลตในแสงแดด ก็จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ทำให้ริมฝีปากอักเสบและมีการกระตุ้นการสร้างเซลล์ให้สร้างเม็ดสีออกมามาก จนทำให้ริมฝีปากคล้ำได้

วิธีแก้ปากดำง่ายๆหลากหลายสไตล์ลองทำเลย

1. หลีกเลี่ยงสาเหตุ

– การสูบบุหรี่ การเลียริมฝีปาก

– หลีกเลี่ยงลิปสติกที่แพ้ ใช้ลิปสติกที่มีสารกันแดด

– งดใช้ยาสีฟันที่แพ้ หรือทานผักผลไม้ที่เป็นต้นเหตุของริมฝีปากคล้ำ ให้รีบล้างริมฝีปาก พร้อมเช็ดปากให้สะอาด

– ก่อนนอนทาลิปบำรุงให้ชุ่มชื้น

2. ดื่มน้ำสะอาดมากๆ

ทำง่ายๆแค่นี้เห็นผลจริงนะจ๊ะ จิบไปเรื่อยๆตลอดวัน ช่วยให้ผิวชุมชื้น ริมฝีปากเปล่งปลั่ง แถมใครผิวกมองคล้ำ ตาคล้ำก็ดีขึ้นได้นะจ๊ะ

3. อย่าลองผิดลองถูก

ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง หรือเปลี่ยนยี่ห้อผลิตภัณฑ์ไปเรื่อยๆ อาจเกิดอาการแพ้ อาจมีผลต่อริมฝีปากอักเสบและทำให้คล้ำได้

4.แปรงปากช่วยได้

ใช้แปรงสีฟันแปรงบริเวณริมฝีปากหลังจากแปรงฟัน แปรงเบาๆ1-2นาที ให้มียาสีฟันติดอยู่ด้วยช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ปากชมพูขึ้นไวมากๆลองทำดู ไม่ถึงเดือนก็เห็นผลแล้ว อย่าลืมทางาสลีนทุกครั้งหลังแปรงด้วยหละ

5. สครับปาก

คุณจะเลือกใช้สครับขัดปากที่มีขายอยู่ทั่วไปก็ได้หรือจะเลือกใช้สครับขัดปากสูตรธรรมชาติก็ดี โดยสูตรแรกนั้นให้คุณใช้น้ำผึ้ง น้ำตาล และวาสลีน อย่างละ ½ ช้อนชา นำมาผสมให้เข้ากันแล้วนำไปนวดวนให้ทั่วริมฝีปาก ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นให้ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดออก สูตรนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ดำคล้ำออกไป ทำให้ปากกลับมามีสีแดงระเรื่อเนียนนุ่มอย่างทันตาเห็น ส่วนอีกสูตรให้ใช้ น้ำมะนาว น้ำนม และน้ำตาล อย่างละ ½ ช้อนชา นำมาผสมให้เข้ากันแล้วนำมาทาพร้อมกับนวดวนให้ทั่วปาก หรืออาจใช้สำลีชุบแล้วพอกทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีก็ได้ (ใครที่มีปากที่แผลห้ามสครับนะจ๊ะ)โดยทั้งสองสูตรนี้ให้ทำแค่สัปดาห์ละ 2 ครั้ง

6. ใช้ทินท์ไปเลยจร้า

ริมฝีปากชมพูดูดีมีเลือดฝาด แต่ดูไม่จงใจทาปากมากเกินไป ทำให้ริมฝีปากชมพูดูสดใสไร้เดียงสา ราวกับอัมพัชราภา ส่วนการทาปากให้ได้แบบอั้ม-พัชราภา ก็ไม่ยากเลยครับ โดยเริ่มจากต้องลงลิปบาล์มเพื่อบำรุงริมฝีปากก่อน จากนั้นก็ซับลิปบาล์มออกเบา ๆ เพื่อไม่ให้เยิ้มจนเกินไป ในกรณีสาวคนใดที่ปากดำคล้ำแนะนำให้ทาคอนซีลเลอร์หรือบีบีครีมบาง ๆ เพื่อกลบสีปากเดิม เพื่อช่วยทำให้เห็นสีทินท์เด่นชัดขึ้น ชั้นตอนต่อมาก็ให้แบ่งริมฝีปากออกเป็น 3 ส่วน และใช้ทินท์ทาเข้าไปข้างในปาก จากนั้นหาลิปสีนู้ดป่วย ๆ มาทาทับเบลนด์สีให้กลืน (ห้ามใช้ลิปสี) จากนั้นให้ใช้ลิปกลอสหรือลิปบาล์มมาทาทับทั้งด้านบนด้านใน

7.ดินสอเขียนขอบปาก

ใครว่าทินท์สีแรงไป ยังไม่ดูธรรมชาติ คุณอาจใช้ดินสอเขียนขอบปากโทนสีธรรมชาตินำมาเขียนขอบปากเบา ๆ ให้พอเห็นสีเพียงเล็กน้อยเพื่อช่วยอำพรางขอบปากซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ปากดูคล้ำมากที่สุด แล้วจึงค่อยเติมลิปกลอสตามปกติ

8.ทาลิปสติกซิช่วยได้แน่นอน

การทาลิปสติกที่มีส่วนผสมของเอเอชเอหรือจำพวกไวเทนนิ่งเป็นประจำช่วยให้ริมฝีปากชมพูขึ้นได้ แต่หลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกที่มีความมันวาวมาก ๆ เพราะจะเป็นตัวดูดกลืนแสงทำให้ปากดูคล้ำมากขึ้น วิธีการทาลิปสติกสำหรับคนปากคล้ำเริ่มจากการทาคอนซีลเลอร์หรือรองพื้นที่เข้ากับสีผิวให้ทั่วริมฝีปาก จากนั้นให้เลือกลิปสีที่ชอบนำมาทาบริเวณด้านใน แต่ถ้าอยากได้ลุคสาววัยทำงานก็ทาให้ทั่วริมฝีปาก (แต่ถ้าใครกลัวว่าการทาคอนซีลเลอร์จะทำให้ทาลิปสติกได้ยากและมองไม่เห็นขอบปาก จะเปลี่ยนไปใช้ดินสอเขียนขอบปาก เขียนก่อนทาลิปสติกก็ได้)

9.ทาลิปบาล์ม

ลิปแคร์ เป็นประจำทุกวัน ยิ่งในช่วงหน้าหนาวก็ควรจะทาบ่อยขึ้น เพราะริมฝีปากมักจะแห้งแตกและลอกเป็นขุยได้ง่าย โอกาสที่จะแพ้สารต่าง ๆ ก็ยิ่งมีมากขึ้น โดยลิปบาล์มหรือลิปแคร์ที่ดีนั้นมักจะมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก เช่น วิตามินอี ลาโนลิน ว่านหางจระเข้ Dumethicone

10. เลเซอร์ปากชมพู เช่น การยิงเลเซอร์แบบจำกัดเม็ดสี โดยแสงเลเซอร์จะเข้าไปทำลายเม็ดสีผิว เวลาทำเลเซอร์แต่ละครั้งมักใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง หลังทำจะรู้สึกยุบยิบหลังทำนิดหน่อยแต่จะหายไปเองใน 15นาที ส่วนจำนวนครั้งในการรักษาก็ขึ้นอยู่กับความเข้มของสีผิวที่ริมฝีปาก แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะทำประมาณ 3-5 ครั้งก็จะชมพูขึ้นจนน่าพอใจแล้ว ส่วนการดูแลหลังทำ คุณควรเลี่ยงการใช้ลิปสติกหรือขี้ผึ้งทุกชนิด ให้เน้นทาวาสลีนและดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื้นไม่ระคายเคืองแล้วกลับมาคล้ำอีก นอกจากนั้นก็ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและการสูบบุหรี่ ไม่รับประทานอาหารที่มีรสจัด ไม่ใช้ยาสีฟันที่มีรสเข้มหรือรสเผ็ดจัด ฯลฯ ราคาการทำต่อครั้ง 2,000-5,000 บาท แล้วแต่ปริมาณช็อตเลเซอร์ เทคนิคการรักษาและความยากง่าย หลังทำครั้งแรกก็เริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทันทีเลยจร้า

บทความโดยนพ.ธีรทัศน์ สำเภาเงิน แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพและแพทย์ประจำ WOWClinic