ฟิลเลอร์ 1 CC ฉีดอย่างไรให้สวย ?
โดยปกติแล้ว ฟิลเลอร์ 1 กล่อง จะมีปริมาณ 1 CC
เมื่อฉีดออกจากไซริงค์แล้วจะมีขนาดเทียบเท่าประมาณเหรียญ 10 บาท
ฟิลเลอร์ 1 CC จะใช้ฉีดในจุดที่ไม่ต้องเติมเต็มมาก ได้แก่ ฟิลเลอร์ใต้ตา ,ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ,ฟิลเลอร์ปาก ,ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ,ฟิลเลอร์คาง ถ้าใช้ 1 CC ก็จะต้องแบ่งฉีดข้างละ 0.5 เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาน้อย ๆ หรืออยากลองทยอยฉีดก่อนเพื่อดูผลลัพธ์

1.ฟิลเลอร์ใต้ตา
บริเวณใต้ตาเป็นจุดแรกที่หมอจะแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้น กระดูกใต้ตาจะยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย หน้าโทรม ไม่สดใส การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยเติมเต็มร่องลึก ช่วยลดริ้วรอย และทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ

2.ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ร่องแก้มก็เป็นอีกปัญหาที่หลายคนหนักใจ การมีร่องแก้มลึกจะทำให้หน้าแก่กว่าวัย ดูไม่สดใส ซึ่งสาเหตุการเกิดร่องแก้ม มีทั้งการยุบตัวของกระดูกบนใบหน้า และการแสดงสีหน้ามาก ๆ ยิ้มเยอะจนแก้มเกิดรอยพับ เมื่อเวลาผ่านไปก็ลึกขึ้นเรื่อย ๆ การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นการแก้ไขปัญหาร่องแก้มที่ตรงจุดและเห็นผลที่สุด
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใช้ฟิลเลอร์ 1-3 CC ขึ้นอยู่กับปัญหาร่องแก้มของแต่ละคนว่าลึกมากแค่ไหน

3.ฟิลเลอร์ปาก
ในปัจจุบันมีเทรนด์ฉีดฟิลเลอร์ปากหลายรูปทรง ทั้งปากกระจับ ปากสายฝ. ปากเกาหลี ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถทำปากรูปทรงต่าง ๆ ได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ถือเป็นข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น เมื่อสลายแล้วสามารถเติมใหม่หรือจะเปลี่ยนทรงปากใหม่ก็ได้เช่นกัน
ฟิลเลอร์ปาก ใช้ฟิลเลอร์มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับทรงปากที่คนไข้ต้องการ ถ้าอยากเพิ่มความอวบอิ่ม ชุ่มชื้นและมีเนื้อปากเดิมอยู่แล้วใช้ 1 CC ก็เพียงพอ ยกเว้นในบางเคสที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มมาก ๆ อาจจะต้องใช้ 2 CC ดูทรงปากยอดนิยม ทรงไหนเหมาะกับใบหน้า เพิ่มเติมได้

4.ฟิลเลอร์ยกมุมปาก
แก้มุมปากตกโดยการฉีดฟิลเลอร์ลงบริเวณใบหน้าช่วงบน หรือช่วงแก้มให้ยกกระชับขึ้นไป มุมปากที่ตกก็จะยกขึ้นตาม และถ้ามีริ้วรอยรอบ ๆ มุมปากร่วมด้วย สามารถฉีดฟิลเลอร์เติมเต็ม ให้ผิวบริเวณรอบมุมปากเต่งตึงขึ้น ดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้นได้

5.ฟิลเลอร์คาง
คนที่อยากปรับรูปหน้าให้เรียวสวย วีเชฟ แต่ไม่อยากผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์คางก็เป็นอีกทางเลือกที่คุ้มค่าและได้ผลลัพธ์ดีไม่แพ้การผ่าตัด หากกังวลว่าฉีดไปแล้วฟิลเลอร์จะไหล จะเป็นก้อน ไม่ต้องกังวลเพราะทาง WOW CLINIC มีเทคนิคพิเศษในการฉีดฟิลเลอร์ เป็นเทคนิคเดียวกับการผ่าตัดเสริมคาง เมื่อฉีดไปแล้วฟิลเลอร์ไม่ไหลมากองเป็นก้อน ได้คางสวยเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์คาง ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC ก็เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่การเติมฟิลเลอร์คางไม่สามารถเติมให้คางยาวลงมามาก ๆ ได้ ก่อนฉีดควรให้หมอประเมินใบหน้าว่าเหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์คางหรือไม่
การฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากใช้ฟิลเลอร์ไม่มาก ประมาณ 1-2 CC ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ ถ้ามีปัญหาไม่มาก อยากยกมุมปากเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ปากได้
ฉีดฟิลเลอร์ แต่ละจุด จะใช้กี่ CC นั้น แพทย์จะเป็นคนประเมินให้ โดยดูจากความลึกของผิว และความต้องการของคนไข้ หากปัญหาเกิดจากการยุบตัวของกระดูกเนื่องจากอายุ ก็จะใช้จำนวน CC มากขึ้นตามความเหมาะสม และสามารถทยอยฉีดได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม