วิธีรักษาหลุมสิว ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ

“หลุมสิว” เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่หลายคนต้องเผชิญหลังจากผ่านช่วงสิวอักเสบหนัก การเกิดหลุมสิวมักเกิดจากการที่เนื้อเยื่อใต้ผิวถูกทำลายจากการอักเสบของสิว ทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวลดลงและไม่สามารถฟื้นฟูได้ตามปกติ ผลลัพธ์คือผิวไม่เรียบเนียนและเกิดรอยบุ๋มถาวรบนใบหน้า ปัจจุบัน วิธีรักษาหลุมสิว ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและซ่อมแซมผิวจากภายในอย่างมีประสิทธิภาพ

ในบทความนี้เราจะอธิบายและให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคและเทคโนโลยี การรักษาหลุมสิว ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2025 พร้อมแนวทางดูแลหลัง รักษาหน้าเป็นหลุม สิว เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกแนวทาง รักษาหน้าเป็นหลุม สิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

Key Takeaway
  • การแก้ปัญหาหลุมสิวไม่สามารถใช้วิธีเดียวได้ผลเท่ากันกับทุกคน การวิเคราะห์ประเภทของหลุมสิวก่อนเริ่มรักษาเป็นขั้นตอนสำคัญ
  • ปัจจุบันมีเทคโนโลยีให้เลือกมากมาย เช่น เลเซอร์, Microneedling, TCA CROSS, Subcision และฟิลเลอร์ ล้วนมีจุดเด่นและข้อจำกัดแตกต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและประเภทหลุมสิว
  • การรักษาควรทำควบคู่ไปกับการดูแลผิวหลังทำอย่างเหมาะสม ทั้งการหลบแดด การบำรุงผิว และการพักผ่อนให้เพียงพอ
  • การปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์คือสิ่งสำคัญ เพื่อประเมินสภาพผิว เลือกเทคนิคที่เหมาะสม และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง
Table of Contents ซ่อน

ก่อนเลือก วิธีรักษาหลุมสิว มาเข้าใจสาเหตุและประเภทของหลุมสิวให้เคลียร์

ก่อนเริ่มต้น การรักษาหลุมสิว การเข้าใจลักษณะของหลุมสิวแต่ละประเภทถือเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะหลุมสิวแต่ละแบบตอบสนองต่อการรักษาแตกต่างกัน แพทย์ผิวหนังมักจำแนกหลุมสิวออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่

  1. Ice Pick Scar — ลักษณะเป็นรูแหลมลึก ปากหลุมแคบ ขอบชัดเจน เกิดจากการอักเสบที่ลึกลงไปในรูขุมขน
  2. Boxcar Scar — หลุมกว้าง ลึกปานกลาง มีขอบค่อนข้างชัด มักเกิดบริเวณแก้ม หน้าผาก คาง
  3. Rolling Scar — หลุมตื้น ทำให้ผิวดูลักษณะเป็นคลื่น ไม่เรียบเสมอกัน มักเกิดจากการอักเสบเรื้อรัง

ซึ่งแต่ละประเภทต้องใช้ วิธีรักษาหลุมสิว ที่ต่างกัน เช่น Ice Pick Scar มักตอบสนองดีต่อ TCA CROSS ส่วน Rolling Scar เหมาะกับ Subcision หรือ Microneedling ที่ช่วยตัดพังผืดและกระตุ้นคอลลาเจนใหม่

วิธีรักษาหลุมสิว เทคโนโลยีเลเซอร์ เทคนิคยอดนิยม

หนึ่งใน การรักษาหลุมสิว ที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบันคือการใช้เลเซอร์เพื่อฟื้นฟูสภาพผิว โดยเลเซอร์จะทำงานโดยการสร้างบาดแผลขนาดเล็กในชั้นผิว เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและสร้างคอลลาเจนใหม่ โดยจะขอยกตัวอย่างเทคโนโลยีเลเซอร์ที่น่าสนใจ 2 แบบดังนี้

  1. Fractional CO Laser เทคโนโลยี การรักษาหลุมสิว นี้ใช้ลำแสงเลเซอร์แบ่งเป็นจุดเล็ก ๆ ยิงลงไปในผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวลึกปานกลางถึงลึกมาก ช่วยให้ผิวเรียบขึ้นหลังทำ 3–5 ครั้ง แต่จำเป็นต้องพักฟื้น 5–7 วัน เนื่องจากผิวอาจแดงและมีสะเก็ดชั่วคราว
  2. Erbium YAG Laser เป็นอีกหนึ่ง วิธีรักษาหลุมสิว ที่ให้ผลใกล้เคียงกับ CO₂ แต่ระคายเคืองผิวน้อยกว่า ฟื้นตัวเร็วกว่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็วแต่ไม่สามารถพักฟื้นนาน

วิธีรักษาหลุมสิว ด้วย เทคนิค Microneedling (ไมโครนีดลิ่ง) แบบไม่ต้องพักฟื้นนาน

รักษาหน้าเป็นหลุม สิวแบบ Microneedling หรือที่เรียกว่า “การใช้เข็มเล็ก ๆ เจาะกระตุ้นคอลลาเจน” เป็น การรักษาหลุมสิว ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ต้องการผิวลอกหรือแดงหลังทำ

หลักการคือการใช้หัวเข็มขนาดจิ๋วสร้างบาดแผลเล็ก ๆ หลายจุดบนผิวหน้า ทำให้ร่างกายเกิดกระบวนการซ่อมแซมตัวเองและผลิตคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยี Microneedling ร่วมกับคลื่นวิทยุ (RF Microneedling) เช่น Morpheus8 หรือ Secret RF ซึ่งช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ลึกและมีประสิทธิภาพมากกว่าแบบเดิม เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวระดับปานกลาง

ผู้ที่ต้องการ รักษาหน้าเป็นหลุม ด้วยวิธีนี้จะเห็นผลชัดเจนขึ้นหลังทำ 3–6 ครั้ง โดยผิวจะเรียบเนียนและกระชับขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วิธีรักษาหลุมสิว ด้วยการแต้มกรด TCA CROSS จุดต่อจุด

TCA CROSS (Trichloroacetic Acid Chemical Reconstruction of Skin Scars) เป็นเทคนิคเฉพาะทางที่ใช้กรด TCA ความเข้มข้นสูงแต้มลงไปในหลุมสิวลึกหรือหลุมสิวแบบจิก เพื่อกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่จากภายใน การรักษาหลุมสิว แบบนี้เหมาะกับหลุมลึกขนาดเล็ก เช่น Ice Pick Scar โดยหลังแต้มจะเกิดสะเก็ดและลอกออกภายใน 5–7 วัน จากนั้นผิวใหม่จะค่อย ๆ ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม การทำ TCA CROSS ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์ เพราะหากใช้กรดผิดความเข้มข้นหรือแต้มผิดวิธีอาจทำให้เกิดรอยดำหรือแผลถาวรได้

วิธีรักษาหลุมสิว แบบ Subcision เหมาะสำหรับผู้มีพังผืดใต้ผิว

รักษาหน้าเป็นหลุม สิวแบบSubcision หรือ “การตัดพังผืดใต้หลุมสิว” เป็น การรักษาหลุมสิว ที่แพทย์นิยมใช้ในกรณีหลุมสิวแบบ Rolling Scar ซึ่งเกิดจากพังผืดใต้ผิวดึงรั้งไว้ ทำให้ผิวไม่เรียบ โดยหลัก ๆ แล้วแพทย์จะใช้เข็มปลายทู่ (Nokor needle) สอดเข้าใต้ชั้นผิวหนังเพื่อตัดพังผืดเหล่านั้นออก ทำให้ผิวที่เคยยุบตัวถูกปลดปล่อยและค่อย ๆ เรียบขึ้น การทำ Subcision มักให้ผลดีเมื่อทำร่วมกับการฉีด PRP หรือเลเซอร์ในขั้นตอนต่อไป เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มเติม ทั้งนี้การ รักษาหน้าเป็นหลุม ด้วย Subcision จะเห็นผลหลังทำเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ผิวอาจมีรอยช้ำ 3–5 วัน

วิธีรักษาหลุมสิว ฟิลเลอร์และคอลลาเจนบูสเตอร์ เติมเต็มผิวให้แลดูเรียบเนียน

ฟิลเลอร์ (Dermal Filler) เป็น การรักษาหลุมสิว ที่ช่วยเติมเต็มหลุมลึกเฉพาะจุด ทำให้ผิวดูเรียบขึ้นทันทีหลังทำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว โดยมักใช้กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งสามารถสลายได้ตามธรรมชาติ

อีกทางเลือกหนึ่งคือ “คอลลาเจนบูสเตอร์” หรือการกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อทดแทนคอลลาเจนที่ผิวได้สูญเสียไป เช่น Sculptra หรือ Radiesse ซึ่งไม่ได้เพียงเติมเต็ม แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวระยะยาว ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2–3 เดือน การ รักษาหน้าเป็นหลุม ด้วยฟิลเลอร์ควรทำโดยแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฉีดฟิลเลอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดก้อนหรือการฉีดผิดตำแหน่ง

วิธีรักษาหลุมสิว ด้วยการผสมผสานหลายเทคนิค เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและเหมาะกับสภาพผิว

ในทางการแพทย์แล้วอาจไม่มี การรักษาหลุมสิว แบบใดที่ได้ผล 100% ในครั้งเดียว เพราะหลุมสิวแต่ละประเภทแต่ละสภาพผิวอาจมีการตอบสนองต่อการรักษาที่ต่างกัน แพทย์ผิวหนังบางรายอาจใช้การรักษาแบบผสมผสาน อย่างเช่นโปรแกรม WOW SCAR REMOVAL ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การรักษาหลุมสิวเรื้อรังโดยเฉพาะ ด้วยแนวคิด “ฉีด เติม ตัด งัดหลุมสิว” ที่ผสานหลายเทคนิคทางการแพทย์ไว้ในโปรแกรมเดียว ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย และฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน โดยใช้ตัวยานำเข้าจากประเทศเกาหลีซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของ WOW Clinic

วิธีรักษาหลุมสิว ให้มีประสิทธิภาพต้องควบคู่การดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม

การดูแลหลังทำเป็นส่วนสำคัญไม่แพ้ตัว วิธีรักษาหลุมสิว เพราะหากผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างเหมาะสม ผลลัพธ์จะคงอยู่ยาวนานและลดความเสี่ยงของรอยดำหรือแผลถาวร หลังเข้ารับ การรักษาหลุมสิว ผิวหน้าจะอยู่ในช่วงซ่อมแซม การดูแลที่ถูกต้องมีส่วนสำคัญต่อผลลัพธ์ เช่น

  • หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง 7–14 วัน และใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน
  • ใช้ครีมบำรุงฟื้นฟูที่มีส่วนผสมของ Cica, Ceramide หรือ Peptide
  • ห้ามแกะสะเก็ดหรือเกาใบหน้า
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอและนอนหลับพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมคอลลาเจนตามธรรมชาติ
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหรือใช้สกินแคร์ที่มีกรดแรงในช่วงแรก

สรุป

ไม่ว่าคุณจะเลือกเทคนิคใดเพื่อ รักษาหน้าเป็นหลุม สิว การปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนเริ่ม การรักษาหลุมสิว เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะแพทย์จะช่วยประเมินระดับความลึกของหลุม สภาพผิวเดิม สิ่งที่ผิวของแต่ละบุคคลต้องการหรือควรเลี่ยง ก่อนที่จะวางแผนรักษาหน้าเป็นหลุม สิว

WOW Clinic เรามีหลากหลายโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อการดูแลปัญหาหลุมสิว ได้แก่ โปรแกรม WOW SCAR REMOVAL ที่รวมหลายเทคนิคการรักษาไว้ในโปรแกรมเดียว   หรือ  โปรแกรม WOW FAST X SCAR ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูผิวหน้า สลายพังผืดที่ดึงรั้งผิว และเร่งการฟื้นตัวของหลุมสิว แต่ละเคสประเมินปัญหาผิวหน้าโดยแพทย์ผิวหนัง มีการวางแผนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปรับคำปรึกษาที่ WOW Clinic สาขาใกล้บ้านคุณ